วันพฤหัสบดีที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2557

BMW X4 เอสยูวีคูเป้ตัวใหม่ น้องชาย X6 คลอดแล้ว

  BMW ประสบความสำเร็จกับการขาย X6 รถที่ได้นิยามจากค่าย Bimmer ว่า Sports Active Coupe (SAC) ประกอบกับตลาดรถแนว SUV กำลังเติบโตสูง ดังนั้น BMW จึงเติมเต็มช่องว่างในค่ายด้วยการเปิดตัว BMW X4 โฉมใหม่ที่เป็นรถเอสยูวีคูเป้รุ่นใหม่ซึ่งถือเป็นน้องชายของ BMW X6 เรียบร้อย
   รูปร่างตัวรถนั้น หน้าตาของรถนั้นแทบจะถอดแบบมาจาก BMW X3 LCI (Minor Change) มาครบถ้วน เนื่องด้วยตัวรถใช้พื้นฐานของ X3 รุ่นปัจจุบันมาต่อยอดพัฒนาใหม่ พูดง่ายๆว่ามันคือการเอา BMW X3 มาตัดหัวและหางทิ้ง เปลี่ยนท้ายใหม่สไตล์คูเป้และปรับหลังคาให้ลาดลงเพื่อแสดงความเป็นรถคูเป้ SUV อีกด้วย ซึ่งดูลงตัวไม่น้อย ซึ่งรูปลักษณ์แบบนี้ BMW ก็เคยให้คำใบ้ไว้แล้วกับ BMW X4 Concept คันต้นแบบสีน้ำเงินที่เผยโฉมเมื่อปีที่แล้วนั่นเองครับ
   BMW ได้ทำการออกแบบเส้นสายบนประตูหลังใหม่ เน้นให้ซุ้มล้อคู่หลังเด่นชัดมากขึ้น พร้อมกับออกแบบโคมไฟท้ายใหม่จนดูคล้ายคลึงกับรถยนต์คูเป้ ออกแบบครีบรีดอากาศบนกันชนหลังใหม่ โดยรวมนั้น BMW X4จะยาวกว่า X3 อยู่ 14 มิลลิเมตร แต่เตี้ยกว่า 36 มิลลิเมตรครับ
   ภายในนั้นแผงคอนโซลหน้ายกมาจาก BMW X3 ทั้งดุ้น ความแตกต่างก็คือ ตกแต่งด้วยแผงอะลูมิเนียมสีเงินด้านและสีดำเงา พื้นที่ด้านหลังโดยสารได้ 3 ที่นั่งเหมือนกับ BMW X3 อีกทั้งยังสามารถพับเบาะในอัตราส่วน 40:20:40 ได้ด้วยเช่นกัน หากพับเบาะราบแล้วจะมีเนื้อที่บรรทุกเพิ่มขึ้นเป็น 1,400 ลิตรเลยครับ
   สำหรับขุมพลังในรถนั้นเบื้องต้นจะมีเครื่องยนต์ให้เลือกทั้งหมด 6 แบบครับ
1. เครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบพร้อมเทอร์โบ TwinPower  2.0 ลิตร 190 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 400 นิวตัน-เมตร
2. เครื่องยนต์ดีเซล 6 สูบเรียง พร้อมเทอร์โบ TwinPower ขนาด 3.0 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 258 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 560 นิวตัน-เมตร 
3. เครื่องยนต์ดีเซล 6 สูบเรียง ขนาด 3.0 ลิตร พร้อมเทอร์โบ TwinPower เช่นกัน แต่ถูกปรับแรงม้าให้สูงขึ้นเป็น 313 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 630 นิวตัน-เมตร
4.-5. เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 2.0 ลิตร พร้อมเทอร์โบ TwinPower ให้กำลัง 2 แบบ ได้แก่
184 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 270 นิวตัน-เมตร และ 245 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 350 นิวตัน-เมตร 

6. เครื่องยนต์เบนซิน 6 สูบเรียง ขนาด 3.0 ลิตร พร้อมเทอร์โบ TwinPower ให้กำลัง 306 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 400 นิวตัน-เมตร
   BMW X4 จะขึ้นสายการผลิตช่วงฤดูใบไม้ผลิปีนี้ เน้นจำหน่ายที่ตลาดอเมริกาเหนือเป็นหลัก ราคาเริ่มต้นราวๆ 45,625 ดอลลอร์สหรัฐ ราวๆ 1.4 ล้านบาทไทย ยังไม่รวมภาษี สำหรับเมืองไทย อย่างเร็วที่สุดก็ปลายปีนี้ครับ ไม่ก็ต้นปี 2015
  แนะนำ ติชม แสดงความคิดเห็น และร่วมเป็นส่วนหนึ่งของแฟนเพจ Cars New Update ที่นี่!!

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข่าวรถได้
ห้ามแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการพนัน หรือสิ่งผิดกฎหมาย

Like Box