วันอังคารที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2559

เปิดตัว Subaru Forester Minor Change ปรับโฉมใหม่พร้อมราคาเร้าใจ

  ค่าย Subaru เมืองไทยได้ทำการเผยโฉมของ Subaru Forester ใหม่ที่ได้รับการปรับโฉมให้ทันสมัยขึ้นพร้อมราคาที่น่าสนใจขึ้นกว่าเดิม รวมทั้งนำเสนอแคมเปญล่าสุด "Is there Anything You Can't Do?" ตอบรับการใช้ชีวิตของครอบครัวยุคใหม่ รวมถึงผู้นิยมกิจกรรมท้าทายที่เชื่อว่า ไม่มีสิ่งใดในชีวิตที่จะทำไม่ได้


   ภายนอกของรถได้รับการปรับปรุงใหม่เล็กน้อย มีการปรับเปลี่ยนกระจังหน้าของรถใหม่ให้ดูดีกว่าเดิม พร้อมปรับเปลี่ยนรายละเอียดของไฟหน้าใหม่ให้ดูดีขึ้นเช่นกัน ในรุ่นล่างสุดจะออกแบบกันชนใหม่ด้วย ส่วนด้านท้ายรถมีการเปลี่ยนไฟท้ายใหม่ให้ทันสมัยขึ้น พร้อมเปลี่ยนล้ออัลลอยลายใหม่ในทุกรุ่นย่อย

   ภายในห้องโดยสารมีการเปลี่ยนแปลงพวงมาลัยใหม่ตามรุ่นอื่นๆ ตกแต่งภายในห้องโดยสารให้หรูหรามีระดับกว่าเดิม สำหรับฟีเจอร์เด่นๆของรถซึ่งจะมีหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับรุ่นย่อยของรถ ได้แก่ จอแสดงผลแบบ LED : Hi-Grade Multi-Function Display ชุดเครื่องเสียงแบบพรีเมี่ยมจาก Harman/Kardon กำลังขับ 400 วัตต์ พร้อมลำโพง 8 ตัว ใช้วัสดุเก็บเสียงรูปแบบใหม่ และฝาท้ายไฟฟ้าพร้อมหน่วยความจำ นอกจากนี้ Subaru ยังปรับปรุงเรื่องการเก็บเสียงด้วยการเพิ่มความหนาของกระจกเพื่อลดเสียงรบกวนจากภายนอกด้วย

   สำหรับขุมพลังของรถตอนนี้มีให้เลือก 2 แบบด้วยกัน ได้แก่ เครื่องยนต์เบนซิน Boxer 4 สูบ 16 วาล์ว ความจุ 2.0 ลิตร กำลังสูงสุด 150 แรงม้า (PS) ที่ 6,200 รอบ/นาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ CVT Lineartronic

และขุมพลังแรงอย่างเครื่องยนต์เบนซิน Boxer 4 สูบ 16 วาล์ว  2.0 ลิตร อัดอากาศด้วยเทอร์โบชาร์จ กำลังสูงสุด 241 แรงม้า (PS) ที่ 5,600 รอบ/นาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ CVT Lineartronic เช่นเดียวกับเครื่อง 2.0 ลิตรธรรมดา

ทุกรุ่นจะได้ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อแบบสมมาตร Symmetrical AWD พร้อมระบบ Intelligent Drive หรือ SI-Drive (SubaruIntelligent Drive) โดยผู้ขับขี่นั้นสามารถเลือกโหมดการขับขี่ให้เหมาะสมกับสภาพถนนได้

   สำหรับระบบความปลอดภัยเด่นๆของรถ ก็จะมีถุงลมนิรภัย 7 ตำแหน่ง ระบบป้องกันการไหลของรถโดยไม่ต้องเหยียบเบรคค้าง Auto Vehicle Hold, ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน Hill Descent Control รวมทั้งระบบไฟเลี้ยวแบบ One Touch Turn Signal

   สำหรับ Subaru Forester Minor Change มีให้เลือก 3 รุ่นย่อยด้วยกัน โดย 2 รุ่นย่อยแรกนั้นจะเป็นรุ่นประกอบในมาเลเซีย ได้แก่
- 2.0 i ราคา 1,398,000 บาท
- 2.0 i-Premium ราคา 1,498,000 บาท
และรุ่นท็อปสุด เครื่องเทอร์โบ ที่นำเข้าจากญี่ปุ่นทั้งคัน
-2.0 XT ราคา 2,290,000 บาท

ภาพจาก Motortrivia

 มาร่วมติดตามความเคลื่อนไหวของพวกเราได้ที่นี่ครับ 


   

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข่าวรถได้
ห้ามแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการพนัน หรือสิ่งผิดกฎหมาย

Like Box