วันศุกร์ที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2560

เผยโฉม All-New MG6 พลิกโฉมดีไซน์ใหม่รถซีดานคันเก่งของค่าย

   ค่ายรถเชื้ออังกฤษสัญชาติจีนอย่าง MG ได้ทำการเผยโฉม All-New MG6 รถคอมแพกต์ซีดานรุ่นใหม่ของค่าย ที่พลิกโฉมการออกแบบให้ดูสวยสง่ามากขึ้นและนำมาดีไซน์จากต้นแบบ MG E-Motion Concept มาประยุกต์ใช้ด้วยเช่นกัน


   ภายนอกมีดีไซน์ที่ดูสปอร์ตและหรูหรามากขึ้น โคมไฟหน้าทรงใหม่แบบโปรเจคเตอร์พร้อม LED DRL ที่มีรายละเอียดภายในโคมเหมือน MG ZS และต้นแบบ E-Motion Concept กระจังหน้าโครเมี่ยมลายเพชรที่มีรายละเอียดเหมือนรถหรูแบรนด์ยุโรป เส้นสายด้านข้างดูสวยงามและทันสมัย เสริมด้วยโครเมี่ยมรอบๆกรอบกระจกและประตูเพิ่มความหรูหรา นอกจากนี้ยังมีการออกแบบกระจกโอเปร่าต่อเนื่องจากประตูหลังด้วย ด้านท้ายมีแนวหลังคาที่ดูลาดเอียงเหมือนรถคูเป้ มากับไฟท้าย LED Tube ที่ดูสวยงามไม่น้อยเลย


  All-New MG6 มีขนาดตัวถังยาว 4,695 มิลลิเมตร (ยาวกว่า MG6 Fastback เดิม 42 มิลลิเมตร) กว้าง 1,848  มิลลิเมตร (กว้างกว่า MG6 Fastback เดิม 21 มิลลิเมตร) และสูง 1,462 มิลลิเมตร (เตี้ยกว่า MG6 Fastback เดิม 5 มิลลิเมตร) มากับฐานล้อ 2,715 มิลลิเมตร (ยาวกว่า MG6 Fastback เดิม 10 มิลลิเมตร)


  ภายในห้องโดยสารยกระดับความหรูหราและทันสมัยมากขึ้น มากับชุดมาตรวัดใหม่พร้อมหน้าจอสี TFT ขนาดใหญ่ ตรงกลางมากับชุดหน้าจอสัมผัสขนาดใหญ่ MG ยังออกแบบให้ปุ่มควบคุมในรถน้อยลงเพื่อการใช้งานดูง่ายและสะดวกมากขึ้นและยังดูสะอาดตา คอนโซลมีการตกแต่งด้วยลายคาร์บอนอีกทั้งยังหุ้มหนังเดินด้ายตะเข็บบนคอนโซล มีการตกแต่งโทนสีภายในด้วยสีดำและแดงด้วย


  ขุมพลังนั้น เท่าที่ทราบเบื้องต้นจะมีเครื่องยนต์ 2 แบบ ได้แก่
* MG6 20T - เครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตรเทอร์โบ พละกำลังกำลังสูงสุด 169 แรงม้าที่ 5,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 250 นิวตันเมตร ที่ 1,700 – 4,400 รอบ/นาที ส่งกำลังด้วยเกียร์ธรรมดา 6 สปีด และ เกียร์อัตโนมัติ Dual Clutch 7 สปีด และอีกทางเลือกก็คือ
* MG6 45T PHEV (Plug-In Hybrid)- เครื่องยนต์เบนซิน 1.0 ลิตรเทอร์โบ 3 สูบ พละกำลังสูงสุด 125 แรงม้าที่ 5,200 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 170 นิวตันเมตร ที่ 2,000 – 4,700 รอบ/นาที ผสานการทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าพละกำลังสูงสุด 81 แรงม้า

   All-New MG6 จะเปิดตัวในตลาดจีนๆราวๆเดือนพฤศจิกายนนี้ วางราคาเริ่มต้นไว้ราวๆ 18,000 ดอลลาร์ (หรือประมาณ 595,000 บาท) และน่าจะนำไปเปิดตัวที่อังกฤษช่วงปี 2018 ส่วนลูกค้าชาวไทยก็ต้องจับตาว่า MG6 จะได้ไปต่อในไทยหรือเปล่าเพราะยอดขายค่อนข้างน้อยเมื่อเทียบกับ MG รุ่นอื่นๆ

  

ที่มา Autohome
   

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข่าวรถได้
ห้ามแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการพนัน หรือสิ่งผิดกฎหมาย

Like Box