วันจันทร์ที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560

สิ้นสุดการรอคอยกับ All-New Mazda CX-5 คอมแพ็กต์เอสยูวีคันงามโฉมใหม่กับราคาเริ่มที่ 1,290,000 บาท

  หลังจากที่สาวกต่างรอคอยมานานสำหรับ All-New Mazda CX-5 ที่ได้ทำการเปิดตัวในตลาดต่างประเทศมาระยะหนึ่งแล้ว คราวนี้ก็ถึงคิวของเมืองไทยเสียทีครับ และแน่นอนว่าในโฉมใหม่นี้ยังคงนำเข้าจากประเทศมาเลเซียเช่นเดิม

    ภายนอกมีการเปลี่ยนแปลงใหม่ทั้งหมดตั้งแต่หัวจรดเท้า แต่หลายคนก็กังขาว่านี่คือรุ่น Minor Change หรือ Model Change กันแน่เพราะทรงไม่ต่างกันเท่าไหร่ แต่แท้จริงแล้วมันคือโฉมใหม่ Model Change ครับ แนวการออกแบบโดยรวมของรถนั้นจะนำเอาดีไซน์จากรถ SUV รุ่นพี่อย่าง CX-9 มาปรับใช้ โดยมากับชุดไฟหน้าทรงใหม่ที่ดูเรียวขึ้น กระจังหน้าขนาดใหญ่โตขึ้นพร้อมตะแกรงลายรังผึ้งที่ทำให้ดูสปอร์ต และแน่นอนว่ารถคันนี้ยังคงยึดติดแนวการออกแบบ Kodo Design อีกเช่นเคย

ด้านข้างมีความคล้ายรุ่นเดิมอย่างมาก แต่มีการปรับเส้นสายตัวรถให้ตรงขนานกับพื้นตัวถัง พร้อมกันนี้ยังเพิ่มเติมขอบโครเมียมบริเวณกรอบประตูเพื่อเพิ่มเติมความหรูหรา ในส่วนของด้านท้ายจะมากับไฟท้ายใหม่ที่ดูเรียวกว่าเดิม และมีดีไซน์ที่ได้กลิ่นมาจากรุ่นพี่ CX-9 เช่นกัน ฝาท้ายสามารถเปิด-ปิดได้ด้วยระบบไฟฟ้า สำหรับเวอร์ชั่นไทยยังมีอีกหนึ่งความพิเศษก็คือ มีติดตั้งหลังคาซันรูฟมาให้ด้วย (เฉพาะตัวท็อป) ล้ออัลลอยของรถมีให้เลือกทั้งแบบ 17 และ 19 นิ้ว ขึ้นอยู่กับรุ่นย่อย

  ขนาดลำตัวของ All-New Mazda CX-5 มีขนาดความยาว 4,550 มิลลิเมตร (ยาวกว่าเดิม 10 มิลลิเมตร) กว้าง 1,840 มิลลิเมตรเท่ารุ่นเดิม และสูง 1,680 มิลลิเมตร (เตี้ยลง 30 มิลลิเมตร) มีระยะฐานล้อยาว 2,700 มิลลิเมตรเท่ารุ่นเดิม

   ภายในห้องโดยสารออกแบบใหม่หมดและเน้นความหรูหรามากยิ่งขึ้นกว่าเดิม มีการบุหนังและเดินด้ายตะเข็บจริงบริเวณคอนโซลหน้า มาพร้อมพวงมาลัย 3 ก้านชุดใหม่แบบเดียวกับที่เราเห็นมาแล้วใน Mazda 2 MY2017 ,3 Minor Change , CX-3 MY2017 บนหน้าปัดติดตั้งจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่ขนาด 4.6 นิ้ว รวมทั้งติดตั้งหน้าจอสัมผัสขนาด 7 นิ้วตำแหน่งการวางคล้ายคลึงกับรถหรู Mercedes-Benz รองรับการเชื่อมต่อ MZD Connect เช่นเคยสามารถควบคุมผ่านทางปุ่ม Center Commander ะบบความบันเทิงเต็มอิ่มจากลำโพงคุณภาพ Bose 10 ลำโพง นอกจากนี้ก็จะมีจอ Head-Up Display , เบรกมือไฟฟ้าและอื่นๆอีกมากมาย

ทางด้านขุมพลังนั้นในไทยจะมีทางเลือก 2 แบบด้วยกัน
- เครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร Skyactiv-G พละกำลัง 165 แรงม้าที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 210 นิวตัน-เมตรที่ 4,000 รอบ/นาที
- เครื่องยนต์ดีเซล 2.2 ลิตร Skyactiv-D พละกำลัง 175 แรงม้าที่ 4,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 420 นิวตัน-เมตรที่ 2,000 รอบ/นาที

ทุกรุ่นส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ SkyActiv-Drive 6 สปีด และมากับระบบขับเคลื่อนล้อหน้า เฉพาะดีเซลตัวท็อปที่ได้ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ

  สำหรับระบบความปลอดภัยของรถนั้นไว้ใจได้เพราะทาง Mazda จัดมาเต็มไม่มีกั๊กโดยมีระบบต่างๆดังนี้
- กุญแจนิรภัย (Immobilizer) สัญญาณกันขโมย (Burglar Alarm) และระบบล็อคและปลดล็อคประตูอัตโนมัติ
- ระบบเบรกมือไฟฟ้า พร้อมระบบ Auto Hold               
- ถุงลมนิรภัยคู่หน้า ด้านข้าง และม่านถุงลมนิรภัย รวม 6 ตำแหน่ง
- ระบบเซ็นเซอร์กะระยะด้านหน้า 4 จุด และด้านหลัง 4 จุด รุ่น 2.0 S ขึ้นไป                            
- กล้องมองหลัง    
- ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน ABSM (Advanced Blind Spot Monitoring)  
- ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง RCTA (Rear Cross Traffic Alert)         
- ระบบปรับมุมลำแสงไฟหน้าอัตโนมัติตามการเลี้ยวของรถ AFS (Adaptive Front-lighting System) เฉพาะรุ่น 2.0 S และ XD                            
- ระบบปรับไฟหน้า LED อัจฉริยะ ALH (Adaptive LED Headlamps) เฉพาะรุ่น 2.0 SP และ XDL
- ระบบเตือนเมื่อรถเบี่ยงออกนอกเลน LDWS (Lane Departure Warning System) เฉพาะรุ่น 2.0 SP และ XDL           
- ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน LAS (Lane-keep Assist System) เฉพาะรุ่น 2.0 SP และ XDL     
- ระบบช่วยหยุดรถอัตโนมัติ SCBS (Smart City Brake Support) เฉพาะรุ่น 2.0 SP และ XDL
- ระบบช่วยหยุดรถอัตโนมัติขณะถอยหลัง SCBS-R (Smart City Brake Support-Reverse) เฉพาะรุ่น 2.0 SP และ XDL                              
- ระบบช่วยเตือนเมื่อเหนื่อยล้าขณะขับขี่ DAA (Driver Attention Alert) เฉพาะรุ่น 2.0 SP และ XDL               
- ระบบเตือนการชนด้านหน้าและช่วยเบรกอัตโนมัติ SBS (Smart Brake Support) เฉพาะรุ่น 2.0 SP และ XDL
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ MRCC  (Mazda Radar Cruise Control) เฉพาะรุ่น 2.0 SP และ XDL           
- ระบบควบคุมความเร็วคงที่ (Cruise Control)
- ระบบป้องกันล้อล็อค 4W-ABS พร้อมระบบกระจายแรงเบรก EBD และระบบช่วยเบรก BA
- ระบบควบคุมเสถียรภาพและการทรงตัวของรถ DSC (Dynamic Stability Control)             
- ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี และควบคุมการลื่นไถล TCS (Traction Control System)
- ระบบช่วยออกตัวของรถขณะอยู่บนทางลาดชัน HLA (Hill Launch Assist)

- ระบบสัญญาณไฟฉุกเฉินเตือนอัตโนมัติ เมื่อเบรกกะทันหัน ESS (Emergency Signal System) 

  All-New Mazda CX-5 มีให้เลือกทั้งหมด 6 สีด้วยกัน ได้แก่ 
- สีแดง Soul Red Crystal
- สีเทา Machine Gray
- สีขาวมุก Snow Flake White Pearl
สีน้ำเงิน Deep Crystal Blue
- สีบรอนซ์เงิน Sonic Silver
- สีดำ Jet Black

  All-New Mazda CX-5 มีทางเลือกรุ่นย่อยทั้งหมด 5 รุ่นย่อย แบ่งเป็นเครื่องยนต์เบนซิน 3 รุ่นย่อย และดีเซล 2 รุ่นย่อย
เบนซิน
2.0 C ราคา 1,290,000 บาท (เพิ่มจากโฉมเก่า 70,000 บาท)
2.0 S ราคา 1,400,000 บาท (เพิ่มจากโฉมเก่า 70,000 บาท)
2.0 SP ราคา 1,530,000 บาท (รุ่นย่อยใหม่)
ดีเซล
XD ราคา 1,560,000 บาท (เพิ่มจากโฉมเก่า 30,000 บาท)
XDL ราคา 1,770,000 บาท (เพิ่มจากโฉมเก่า 80,000 บาท)
  
    All-New Mazda CX-5 มากับสโลแกนที่ใช้สื่อสารทางการตลาดว่า "เป็นที่สุดในทุกบทบาท 
MAKE ALL CHAPTERS REMARKABLE" ใครสนใจไปชมรถคันจริงหรือทดลองขับสามารถไปชมกันได้แล้วที๋โชว์รูม Mazda ทั่วประเทศครับ

  

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข่าวรถได้
ห้ามแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการพนัน หรือสิ่งผิดกฎหมาย

Like Box