วันจันทร์ที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561

All-New BMW X4 โฉมใหม่ที่ดูใหญ่ขึ้น เบาขึ้น และดูสะกดสายตาขึ้นกว่าเดิม

  ค่ายใบพัดฟ้าขาว BMW ได้สร้างตลาดที่แปลกใหม่ด้วยการเปิดตัวรถครอสโอเวอร์แนวคูเป้ (ในชื่อเรียกประเภทรถสุดเก๋ว่า Sports Activity Coupe - SAC) ครั้งแรกในปี 2007 กับ BMW X6 หลังจากนั้น 7 ปีให้หลังทางค่ายได้แนะนำครอสโอเวอร์แนวคูเป้ที่ขนาดเล็กลงมาใน BMW X4 และล่าสุดก็ได้มีการเปลี่ยนโฉม่ใหม่หมดจดให้กับ X4 เป็นที่เรียบร้อย

  All-New BMW X4 เจเนเรชั่นที่ 2 ได้รับการออกแบบให้มีขนาดตัวถังที่ใหญ่ขึ้นกว่าเก่า ด้วยความยาวตัวรถที่มากขึ้น 3 นิ้ว กว้างขึ้น 0.5 นิ้ว ความสูงลดลง 0.1 นิ้ว และมีฐานล้อยาวขึ้นอีก 2 นิ้ว แม้ตัวรถจะใหญ่ขึ้นแต่ทางวิศวกรได้ออกแบบรถให้มีน้ำหนักเบาลงราวๆ 50 กิโลกรัม มีจุดศูนย์ถ่วงที่ต่ำลงและอัตราส่วนการกระจายน้ำหนักรถ 50:50

  ดีไซน์ภายนอกได้รับการออกแบบให้ดูสวยทันสมัยมากขึ้นยิ่งกว่าเดิม ครึ่งคันหน้าหลายคนคงคุ้นตาเพราะเอามาจาก BMW X3 แทบทั้งดุ้นเลย แต่การออกแบบกันชนหน้าใน X4 เกรด xLine จะมีการออกแบบให้แตกต่างจาก X3 นิดหน่อย ส่วนรุ่น M Sport นั้นจะยกกันมาเลย นอกจากนี้ใน X4 จะมีรุ่น M Sport X มาเป็นทางเลือกด้วย (M Sport X น่าจะมีในรถอเนกประสงค์ X-Series ในตระกูลเลขคู่เท่านั้น เหมือนที่ X2 มี)

  ครึ่งคันหลังนั้นจะต่างจาก X3 โดยสิ้นเชิง เมื่อเทียบกับ X4 โฉมที่แล้ว ในโฉมล่าสุดถือว่าเปลี่ยนเยอะทีเดียว ด้วยเส้นสายช่วงกระจกโอเปร่าหลังที่ดูสะกดสายตากว่าเดิม บั้นท้ายดีไซน์ใหม่ที่มาพร้อมกับไฟท้ายทรงเรียว พร้อมกับย้ายตำแหน่งป้ายทะเบียนไปไว้ตรงกันชนท้ายแทน

  All-New BMW X4 ยังออกแบบให้มีค่าสัมประสิทธิ์ความเสียดทานที่ 0.30 และด้วยหลังคาที่ออกแบบให้ลาดเอียงสไตล์รถคูเป้ ด้านท้ายถูกออกแบบให้มีความจุสัมภาระที่ 524 ลิตร อาจจะดูน้อยสำหรับรถแนวครอสโอเวอร์แต่อย่างน้อยก็ยังมากกว่า 3-Series อยู่ดี และเมื่อพับเบาะหลังลง (เบาะสามารถพับได้ในอัตราส่วน 40:20:40) จะส่งผลให้มีความจุมากขึ้นเป็น 1,416 ลิตรโดยทันที

  เข้ามาภายในห้องโดยสารก็จะพบคอนโซลที่คุ้นตาเพราะยกมาจาก X3 เจเนเรชั่นล่าสุดนั่นเอง โดยออกแบบให้แผงแดชบอร์ดอยู่ในตำแหน่งที่ต่ำ และเบาะนั่งอยู่ในตำแหน่งที่สูงกว่าเพื่อให้ผู้ขับขี่สามารถมองทัศนวิสัยได้ชัดเจน  ด้วยภายนอกที่กว้างขึ้นก็ส่งผลให้เบาะแถวหลังนั่งได้สบายมากกว่าเดิม นอกจากนั้นแล้วก็ยังมีหลังคาพาโนรามิกซันรูฟช่วยให้มองวิวท้องฟ้าได้ชัดเจน

   ตรงกลางแดชบอร์ดติดตั้งชุดมาตรวัดแบบดิจิตอล (มีออปชั่นเสริมเป็นจอ Head-Up Display ที่ใหญ่กว่าเดิม 75%) , หน้าจอสัมผัสขนาด 10.25 นิ้วพร้อมระบบควบคุมการสั่งงานด้วยการเคลื่อนไหวมือ (Gesture Control) ทางด้านระบบความปลอดภัยก็จะมีการติดตั้งระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ Active Cruise Control , ระบบช่วยรักษารถให้อยู่ในเลน Lane-Keeping Assist , ระบบตรวจจับรถขณะออกจากซองจอด Cross-Traffic Warning , ระบบช่วยจอดอัตโนมัติ Parking Assistant , กล้องมองภาพรอบคันและอีกมากมาย

   สำหรับขุมพลังนั้นจะมีทางเลือกเบนซิน 3 แบบ และดีเซล 4 แบบด้วยกัน ได้แก่
* xDrive20i เครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร TwinPower Turbo พละกำลัง 184 แรงม้า
* xDrive30i เครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร TwinPower Turbo พละกำลัง 252 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 350 นิวตัน-เมตร อัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ใน 6.3 วินาที ความเร็วสูงสุด 240 กม./ชม.
* M40i เครื่องยนต์เบนซิน 3.0 ลิตร TwinPower Turbo 6 สูบ พละกำลัง 360 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 500 นิวตัน-เมตร อัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ใน 4.8 วินาที ความเร็วสูงสุด 250 กม./ชม.
* xDrive20d เครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร TwinPower Turbo พละกำลัง 190 แรงม้า
* xDrive25d เครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร TwinPower Turbo พละกำลัง 231 แรงม้า
* xDrive30d เครื่องยนต์ดีเซล 3.0 ลิตร TwinPower Turbo 6 สูบ พละกำลัง 265 แรงม้า
* M40d เครื่องยนต์ดีเซล 3.0 ลิตร TwinPower Turbo 6 สูบ พละกำลัง 326 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 679 นิวตัน-เมตร อัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ใน 4.9 วินาที  ทุกรุ่นมาพร้อมกับเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีดพร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ

  All-New BMW X4 จะนำไปโชว์ตัวต่อสาธารณะชนครั้งแรกในงาน Geneva Motor Show 2018 ช่วงเดือนมีนาคมนี้ครับ

ที่มา Carscoops

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข่าวรถได้
ห้ามแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการพนัน หรือสิ่งผิดกฎหมาย

Like Box